เมล็ดกาแฟ ความรู้และศาสตร์ของกาแฟ
เมล็ดกาแฟ คุณสมบัติที่มีประโยชน์หลากหลาย ความสำคัญที่อยู่เบื้องหลังของเครื่องดื่มที่คนทั่วโลกชื่นชอบ ไม่เพียงแต่เป็นต้นกำเนิดของเครื่องดื่มกาแฟที่มีรสชาติเข้มข้นและยังมีกลิ่นหอม แต่เมล็ดกาแฟยังเป็นแหล่งที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินหลายชนิดที่สามารถช่วยดูแลสุขภาพและป้องกันโรคร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ คาเฟอีนเป็นสารที่เราคุ้นเคยดีในกาแฟ ไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นระบบประสาท แต่ยังจะช่วยทำให้เราตื่นตัว และยังช่วยเสริมสมาธิ โดยเฉพาะในการทำงานหรือการศึกษาที่ต้องการความสนใจและความตั้งใจเป็นเวลานาน นอกจากนี้ แนวทางในการนำเมล็ดกาแฟมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและผลิตภัณฑ์ความงามต่างๆ แนะนำกาแฟ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หนึ่งในนั้นคือคุณสมบัติในการยับยั้งการเกิดริ้วรอยและการอักเสบของผิว ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์ มีชีวิตชีวา ด้วยเหตุผลเหล่านี้เมล็ดกาแฟไม่เพียงแค่เป็นส่วนประกอบหลักในเครื่องดื่มที่รัก แต่ยังเป็นสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพและสร้างประโยชน์ต่อผิวพรรณ เป็นต้นฉบับของการสร้างสุขภาพที่ดีและความงามที่แท้จริงจากธรรมชาติ
ประวัติของเมล็ดกาแฟ ความเป็นมาของเมล็ดในตำนาน
เมล็ดกาแฟมีต้นกำเนิดที่ประเทศเอธิโอเปีย เมล็ดกาแฟสด โดยมีตำนานเรื่องของเซนาบอน Kaldi คนเลี้ยงแพะที่เคยสังเกตเห็นแพะของเขามีพลังงานมากหลังจากที่กินเมล็ดจากต้นบางต้น กาแฟจากนั้นก็เริ่มกระจายไปในพื้นที่อาหรับและเป็นที่รู้จักแพร่หลายในยุโรปในศควรรษที่ 17 ก่อนที่จะกระจายไปทั่วโลกในศตวรรษต่อมา ปัจจุบันเมล็ดกาแฟได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของหลายประเทศทั่วโลก
การค้นพบเมล็ดกาแฟ
การค้นพบเมล็ดกาแฟเกี่ยวข้องกับตำนานที่สื่อสารกันมาในประเทศเอธิโอเปีย ซึ่งจะเป็น จุดเริ่มต้นของกาแฟ ตามตำนานที่เล่ากันมาว่า มีชาวเอธิโอเปียคนหนึ่งมีชื่อว่า Kaldi ที่เป็นคนเลี้ยงแพะ วันหนึ่งเขาสังเกตุเห็นแพะของเขาแสดงพฤติกรรมที่กระปรี้กระเปร่า และเหมือนมีพลังงานหลังจากทานเมล็ดจากต้นบางต้น นี่คือ การค้นพบครั้งแรกของเมล็ดกาแฟ หลังจากนั้น Kaldi ได้ลองทานเมล็ดเหล่านั้นได้มีความรู้สึกตื่นเต้นและกระปรี้กระเปร่าเป็นอย่างมาก จากนั้นเขาได้นำเมล็ดกาแฟเหล่านี้ไปยังวัด หลังจากนั้นก็ได้มีผู้คนได้นำมาต้มเป็นเครื่องดื่ม การค้นพบนี้กระจายไปทั่ว และในที่สุดก็ทำให้การบริโภคกาแฟเริ่มแพร่กระจายไปในเอธิโอเปีย ต่อมาเป็นที่รู้จักในพื้นที่อาหรับและเป็นที่นิยมในยุโรป กาแฟต่อมาก็กลายเป็นเครื่องดื่มที่สำคัญที่มีผู้บริโภคทั่วโลก มีผลต่อวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของหลายประเทศ
การแพร่กระจายของกาแฟในโลก
โดยการแพร่กระจายของกาแฟในโลก เป็นเรื่องที่น่าสนใจและเกี่ยวกับการติดต่อทางการค้า การปกครอง และ ทางวัฒนธรรม โดยสามารถลำเรียงเหตุการณ์ได้ 6 เหตุ ดังนี้
โดยการแพร่กระจายของกาแฟในโลก เป็นเรื่องที่น่าสนใจและเกี่ยวกับการติดต่อทางการค้า การปกครอง และ ทางวัฒนธรรม โดยสามารถลำเรียงเหตุการณ์ได้ 6 เหตุ ดังนี้
1.การเริ่มต้นในเอธิโอเปีย จากตามตำนาน เมล็ดกาแฟเริ่มถูกค้นพบในเอธิโอเปีย และในไม่ช้าก็แพร่กระจายไปยังพื้นที่อาหรับผ่านทางการค้า
2.พื้นที่อาหรับ ในศตวรรษที่15 กาแฟเริ่มแพร่กระจายในยิ่งใหญ่ในพื้นที่อาหรับ โดยเฉพาะที่เมนา และต่อมาก็ไปถึงเมืองเมกกะ และคังสตันตินโอเปิล
3.ยุโรป ในศตวรรษที่17 กาแฟได้ถูกนำเข้ามายุโรปผ่านทางเมืองเวนิส และไม่ช้าก็ได้รับความนิยมขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วยุโรป โดยเฉพาะใน อิตาลี,ฝรั่งเศส,เยอรมนี และอังกฤษ
4.อเมริกา กาแฟถูกนำเข้ามาในอเมริกาเหนือในศตวรรษที่17 และได้รับความนิยมขึ้นอย่างรวดเร็วในศตวรรษที่18 โดยเฉพาะในวัฒนธรรมของประชากรในอเมริกา
5.การเพาะปลูกในทวีปอเมริกา กาแฟเริ่มถูกนำไปเพาะปลูกในแคริบเบียนและสวรรค์ใต้ในศตวรรษที่18 และในศตวรรษที่19 ได้รับการยอมรับว่าเป็นสินค้าที่สำคัญสำหรับประเทศที่อยู่ในทวีปนี้
6.อาเชีย และต่อมาโอเชียเนีย: การเพาะปลูกกาแฟขยายไปถึงพื้นที่อาเซียเนียในศตวรรษที่ 19, โดยเฉพาะที่เวียดนาม, ประเทศไทย, และประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้
ในสมัยที่ผ่านมา, การแพร่กระจายของกาแฟได้รับผลกระทบจากการค้า, การท่องเที่ยว, และวัฒนธรรมต่างๆ ทำให้กาแฟกลายเป็นเครื่องดื่มที่รู้จักและเป็นที่นิยมทั่วโลก
ประเภทของเมล็ดกาแฟ
เมล็ดกาแฟมีหลายประเภทที่นิยมในแต่ละประเภทมีลักษณะ รสชาติ และ คุณสมบัติที่แตกต่างกัน มีอะไรบ้าง?
1.กาแฟสายพันธ์ุอาราบิกา (Arabica)
ต้องบอกเลยว่าเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมปลูกมากที่สุดเป็นอันดัลหนึ่งของโลกถึงร้อยละ 80 เลยทีเดียว คนไทยส่วนใหญ่ก็ชื่นชอบและมักจะดื่มกาแฟชนิดนี้อยู่มาก เพราะเป็นเมล็ดกาแฟที่มีกลิ่นหอมและยังมีรสชาตินุ่มละมุนอีกด้วย ในส่วนของปริมาณคาเฟอีนจะอยู่ที่ 1.1-1.7 ซึ้งเป็นปริมาณที่ไม่สูงมากและทำให้ดื่มได้ง่ายกว่าเมล็ดกาแฟอื่นๆ โดยลักษณะของเมล็ดนั้นจะมีรูปร่างที่ เรียวผอม มีรูปทรงวงรี และเส้นตรงกลางในเมล็ดมีลักษณะคล้ายตัวอักษร S ซึ่งมีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นช็อกโกแลตและดอกไม้ผสมกัน การเพาะปลุกของเมล็ดกาแฟสายพันธุ์นี้จะเติบโตได้ดีในสภาพอากาศที่เย็นและพื้นที่สูง ซึ่งในประเทศไทยนิยมปลูกในพื้นที่ภาคเหนือ เช่นจังหวัด เชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอน น่าน ตาก เชียงราย เป็นต้น
2.กาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า (Robusta)
โรบัสต้าถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมไม่น้อยไปจากอาราบิกา ซึ่งจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟแบบเข้มข้น แน่นอนว่าต้องเข้มและขมกว่าอราบิก้า มีรสชาติที่ค่อนข้างฝาด ในส่วนของปริมาณจะอยู่ที่ 2-4.5 ส่วนมากจะพบเมล็ดกาแฟชนิดนี้วางจำหน่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป ลักษณะของเมล็ดสายพันธุ์นี้จะมีรูปร่างกลมมนและมีเส่นผ่าตรงกลางในเมล็ดเป็นแนวตรง ในเรื่องของการเพาะปลูก เป็นสายพันธุ์ที่ต้องการความชื้นสูงและพื้นที่ต่ำ ในประเทศไทยส่วนใหญ่จะนิยมปลูกในภูมิภาคทางภาคใต้ เช่น นครศรีธรรมราช ชุมพร สุราษฎร์ธานี เป็นต้น
3.กาแฟสายพันธุ์ลิเบอริก้า (Liberica)
ซึ่งเป็นกาแฟอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ไม่ค่อยจะได้รับความนิยมมากเท่าไหร่ ซึ่งเมล็ดกาแฟสายพันธุ์มีถิ่นกำเนิดในไลบีเรียและไอเวอรี่โคสต์ ในปัจจุบันประเทศมาเลเซียมีการปลูกกาแฟสายพันธุ์ลอเบอริก้ามากถึง 90-95% ของพื้นที่ปลูกทั่วประเทศ ในส่วนของลักษณะใบที่มีขนาดใหญ่กว่าสายพันธุ์อื่นๆ จึงมีอีกชื่อเรียกว่า กาแฟใบใหญ่ จะเติบโตดีในสภาพอากาศร้อนชื้นและน้ำชุ่มๆ ในเรื่องของรสชาติมีความคล้ายกับอราบิก้าจะมีรสเปรี้ยวอมหวาน ส่วนใหญ่มักนิยมนำไป Blend กับกาแฟชนิดอื่นๆ เพื่อจะเพิ่มความหลากหลายและมิติในรสชาตินั้นเอง
4.กาแฟสายพันธุ์เอ็กซ์เซลซ่า (Excelsa)
หลายๆคนคงไม่ชินกับชื่อสายพันธุ์นี้สักเท่าไหร่ กาแฟสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ทวีปแอฟริกา โดยลักษณะของสายพันธุ์นี้จะมีรูปร่างคล้ายกับสายพันธุ์โรบัสต้า ซึ่งกาแฟสายพันธุ์เอ็กซ์เซลซ่าจะเป็นที่นิยมในแถบทวีปแอฟริกา แต่สำหรับประเทศอื่นๆ ยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เพราะมีรสชาติที่มีความเข้มข้นมากจนถึงขมพร่าเลยทีเดียว
การประมวลผลเมล็ดกาแฟ
การประมวลผลเมล็ดกาแฟ คือ ขั้นตอนที่สำคัญในการผลิตเมล็ดกาแฟที่พร้อมใช้งาน มีหลายวิธีในการประมวลผลเมล็ดกาแฟ แต่ละวิธีจะมีผลต่อรสชาติและคุณภาพของเมล็ดกาแฟ
1.การประมวลผลแบบแห้ง (Dry Process)
เมล็ดกาแฟที่ยังคงเปลือกอยู่จะถูกแช่บนพื้นหรือพื้นที่แห้งในระยะเวลาหลายวัน
เมล็ดกาแฟต้องถูกควบคุมและพลิกบ่อยๆ จนกว่าเมล็ดกาแฟจะแห้ง
2.การประมวลผลแบบเปียก (Wet Process)
ผลกาแฟจะถูกปลิกเปลือกออกและนำไปแช่ในน้ำเพื่อหยอดเมล็ดออกมา
เมล็ดกาแฟจะถูกแช่ในน้ำจนกว่าเยื่อโมเลกุลจะแยกออกจากเมล็ด
หลังจากนั้น เมล็ดกาแฟจะถูกขนส่งไปแช่แห้ง
3.การประมวลผลแบบกึ่งเปียก (Semi-Washed or Pulped Natural)
แช่เปลือกและหยอดเมล็ดกาแฟออกแต่ยังคงเยื่อโมเลกุลอยู่
หลังจากนั้น เมล็ดกาแฟจะถูกแช่แห้งทันที
การประมวลผลแบบฮันนี่ (Honey Process)
วิธีนี้คล้ายกับการประมวลผลแบบกึ่งเปียก แต่มีการควบคุมการแห้งแบบพิเศษ ทำให้เมล็ดกาแฟมีสีน้ำตาลคงเหลือบางส่วนเหมือนน้ำผึ้ง
การคั่วเมล็ดกาแฟ
การคั่วเมล็ดกาแฟ คือกระบวนการที่เปลี่ยนเมล็ดกาแฟดิบให้กลายเป็นกาแฟที่พร้อมสำหรับการบดและชง การคั่วจะทำให้เมล็ดกาแฟเปลี่ยนสีและปลดปล่อยกลิ่นออกมา ระดับการคั่วแต่ละระดับจะให้รสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกัน ตั้งแต่การคั่วเบาที่เน้นความเปรี้ยวจนถึงการคั่วเข้มที่มีรสชาติเข้มข้นและความหวานลดลง การคั่วเมล็ดกาแฟถูกกำหนดโดยอุณหภูมิและเวลาในการคั่ว และเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการผลิตกาแฟที่มีคุณภาพ
คั่วอ่อน (Light Roast)
เมล็ดกาแฟคั่วอ่อนนั้นมักมีลักษณะที่เด่นก็คือ มีสีน้ำตาลอ่อน มีความแห้ง ซึ่งในระดับการคั่วอ่อนจัดให้เป็นการคั่วที่เก็บความเป็นธรรมชาติของเมล็ดกาแฟได้ดีที่สุด และ กาแฟที่ดีส่วนใหญ่จึงนิยมคั่วในระดับอ่อนเพื่อที่จะแสดงศักยภาพของกาปฟได้เป็นอย่างดี จะมีรสชาติไปในทางเปรี้ยว ขมน้อย ซึ่งก็เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่หลายๆคนติดใจ
คั่วกลาง (Medium Roast)
เมล็ดกาแฟคั่วกลางก็เป็นอีกหนึ่งระดับที่ได้รับความนิยมสำหรับร้านกาแฟในยุคนี้ จะนิยมใช้เมล็ดกาแฟคั่วกลาง ถ้าคั่วในระดับที่พอดีจะมีรสชาติหวานและเปรี้ยวพอดีๆกัน ในส่วนของลักษณะรูปร่างและสีจะมีลักษณะสีน้ำตาลเข้มกว่าระดับคั่วอ่อนในระดับหนึ่ง จะเก็บความเป็นธรรมชาติและคุณลักษณะของเมล็ดกาแฟไว้ได้ดี มีความหวานมากขึ้นจากกระบวนการ Develop ที่นานกว่าคั่วอ่อน ซึ่งส่วนใหญ่จะเหมาะสำหรับการชงแบบเอสเพรสโซ่สะส่วนใหญ่
คั่วเข้ม (Dark Roast)
เมล็ดกาแฟแบบคั่วเข้มจัดว่าเป็นการคั่วที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ส่วนใหญ่แล้วร้านกาแฟหลายๆสาขาในไทยก็นิยมใช้เมล็ดระดับคั่วเข้มกันส่วนใหญ่ ลักษณะทางกายภาพของการคั่วระดับมีสีน้ำตาลเข้ม จนเกือบเป็นสีดำ
ประโยชน์ทางสุขภาพของเมล็ดกาแฟ
เมล็ดกาแฟไม่ได้มีประโยชน์แค่การเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ แต่มีประโยชน์มากมายในเรื่องของสุขภาพมีอะไรบ้าง ดังนี้
1.เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ เมล็ดกาแฟมีสารอันตรายอยู่มากมายที่สามารถช่วยยับยั้งการเกิดอนุมูลอิสระได้ และยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคร้ายบางชนิดได้อีกด้วย
2.ช่วยเสริมสร้างสมาธิ คาเฟอีนในกาแฟสามารถช่วยเสริมสร้างสมาธิ การตื่นตัว อีกทั้งยังดีต่อการทำงานและการเรียนรู้
3.ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า การดื่มกาแฟอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้
4.ป้องกันโรคประสาท การดื่มกาแฟมีการเชื่อมโยงกับการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคพาร์กินสัน และโรคอัลไซเมอร์
5.ประโยชน์ต่อเมตาบอลิซึม คาเฟอีนสามารถเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน และช่วยลดน้ำหนักได้
ส่งเสริมสุขภาพตับ การดื่มกาแฟจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคตับแข็ง
การเก็บรักษาเมล็ดกาแฟ
การเก็บรักษาเมล็ดกาแฟ ให้คงความสดภายในระยะเวลาที่ยาวนานต้องพิจารณาหลายปัจจัย ควรเก็บในภาชนะที่ปิดปากแน่นเพื่อป้องกันอากาศและความชื้น และหลีกเลี่ยงการเก็บไว้ในที่ที่มีความร้อนหรือแสงแดดโดยตรง เนื่องจากทั้งสองสิ่งนี้สามารถทำให้เมล็ดกาแฟเสียความสดได้ เป็นต้น การเก็บรักษาในสภาพที่เหมาะสมจะทำให้คุณสามารถเพลิดเพลินกับกลิ่นและรสชาติของกาแฟที่สมบูรณ์แบบได้